ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิต และอาชีพของนักเรียน
โรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม ผู้วิจัย นายดำรง
ศิริมาลา ปีที่พิมพ์
2566 บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้
มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการดำเนินงานการบริหารจัดการเรียนรู้
โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน
โรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม 2) พัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน
โรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม และ 3) ทดลองใช้และศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบ การบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน
โรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม ใช้หลักการวิจัยและพัฒนา (Research and
Development : R & D) โดยแบ่งขั้นตอนการวิจัยออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้ ระยะที่
1 ศึกษาสภาพการดำเนินงานการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน
(Reserach
: R1) กลุ่มเป้าหมาย คือ คณะกรรมการสถานศึกษาและครูโรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม
รวมทั้งสิ้น 39 คน ผู้บริหารสถานศึกษาที่มีวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ
(Best
Practice) จำนวน 5 คนและภูมิปัญญาท้องถิ่นจำนวน 5 คน ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบ
(Development
: D1) กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้เชี่ยวชาญในการ
ระดมสมอง (Brainstorming) เพื่อกำหนดรูปแบบ จำนวน 13 คนและผู้เชี่ยวชาญหาประสิทธิภาพของรูปแบบจำนวน
9 คน ระยะที่
3 ทดลองใช้รูปแบบ (Research
: R2) กลุ่มเป้าหมาย คือ คณะกรรมการสถานศึกษา
จำนวน 15 คน ครูจำนวน 24 คน นักเรียน
จำนวน 222 คนและภูมิปัญญาท้องถิ่น
จำนวน 5 คน รวมทั้งสิ้น 266 คน ระยะที่ 4 ศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบ
(Development:D2) กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้เชี่ยวชาญยืนยันประสิทธิภาพรูปแบบ จำนวน 9
คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เป็นแบบตรวจสอบรายการ แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content
Analysis)
ผลการวิจัย
พบว่า (1) ระดับสภาพการดำเนินงานการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน
โรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม ที่มีค่าเฉลี่ยโดยรวมสูงสุด คือ
สถานศึกษาสนับสนุนให้ครูนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ คือ อบรม
สัมมนาและศึกษาดูงานสำหรับครู คิดเป็นร้อยละ 95 รองลงมา คือ
สถานศึกษากำหนดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตนักเรียนที่ต้องแก้ไขให้สอดคล้องกับบริบทของนักเรียนและท้องถิ่น คือ กิจกรรมหลีกเลี่ยงสิ่งเสพติด
คิดเป็นร้อยละ 87 และอาชีพที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น คือ เกษตรพอเพียง คิดเป็นร้อยละ 82 ตามลำดับ (2) รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน
โรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม ใช้ชื่อรูปแบบว่า POEC
Model
พบว่า
โครงสร้างรูปแบบ ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 หลักการ ส่วนที่ 2 วัตถุประสงค์
ส่วนที่ 3 สาระสำคัญ ส่วนที่ 4 องค์ประกอบมี 2 องค์ประกอบ คือ 1) การบริหารแบบมีส่วนร่วม 2)
การจัดการเรียนรู้ ผลประเมินประสิทธิภาพรูปแบบอยู่ในระดับมากที่สุด (µ=4.71),(σ=0.51) (3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน
โรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม
ดังนี้ 1) ด้านการบริหารแบบมีส่วนร่วม โดยรวม พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด (µ=4.51,σ=0.52) และ 2) ด้านการจัดการเรียนรู้ โดยรวม พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด (µ=4.52,σ=0.66)และ (4) ประสิทธิผลรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน
โรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม ผู้เชี่ยวชาญยืนยันประสิทธิผลมีความสอดคล้องเหมาะสมสำหรับการนำไปพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ค่าดัชนีความสอดคล้องเหมาะสมเท่ากับ 1.00 ข้อเสนอแนะ 1) การพัฒนาทักษะอาชีพควรขยายผลการพัฒนา สู่เยาวชน
ชุมชนให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน 2) ควรส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตและการตลาดสู่ความเป็นมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ 3) กำหนดขอบข่ายอาชีพให้หลากหลายยิ่งขึ้น 4) สร้างเครือข่ายการพัฒนาสู่สถานศึกษาอื่นๆเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเจตคติต่อการประกอบอาชีพเพิ่มรายได้
หรือลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นของครอบครัว และ 5) ควรเปิดคลินิกพัฒนาคุณภาพชีวิตรอบด้านของนักเรียน |